ลักษณะปัญหาฝุ่นที่ผิวหน้าคอนกรีต
โดยปกติพื้นผิวคอนกรีตที่แข็งตัวแล้ว จะมีฝุ่นบ้างแต่ไม่มากโดย สามารถใช้น้ำฉีดล้าง ทำความสะอาดได้ และไม่กระทบความแข็งแรงคอนกรีต แต่ฝุ่นที่ผิวหน้าคอนกรีตที่เป็นปัญหาจริงๆ นั้นมีลักษณะที่สังเกตได้โดยง่ายคื่อ มีฝุ่นที่ผิวหนามากกว่า 0.5 ซม. หากใช้มือลูบที่ผิวคอนกรีตจะมีฝุ่นติดมือขี้นมาเป็นจำนวนมาก
การเกิดฝุ่นที่ผิวหน้าคอนกรีต มักเกิดภายหลังที่มีการใช้งานไประยะหนึ่ง ไม่ว่าจะมาจากการถู ขัดสี จากล้อรถยนต์ หรื่ออื่นๆ แต่หากป็นฝุ่นที่เกิดขึ้นก่อนการใช้งาน จะเป็นฝุ่นที่เกิดจากการสะสมของวัสดุที่มีลักษณะเป็นผงหรือเป็นฝุ่น เช่น ฝุ่นจากดิน ทราย หรือหิน ลอยขึ้นมาอยู่บนผิวหน้า ของคอนกรีตที่แข็งตัวทำให้สภาพผิวของคอนกรีตไม่มีความแข็งแรงเพียงพอต่อการใช้งาน ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงจะมีความสงสัยเกิดขึ้นในใจว่า "สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นีคืออะไร ? แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ?
หลังจากที่เราทราบถึงสาเหตุ ที่แท้จริงของการเกิดฝุ่นที่ผิวหน้า ของคอนกรีตกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันครับว่าเราจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ได้อย่างไรบ้าง?
วิธีการลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวหน้าคอนกรีตเป็นฝุ่น
1.เลือกใช้คอนกรีตให้เหมาะสมกับงานประเภทต่างๆ
2.ไม่เติมน้ำเพิ่มลงในคอนกรีตที่หน้างาน
3.ไม่ทำการแต่งผิวหน้าในขณะที่ยังมีการเยิ้มที่ผิวหน้าของคอนกรีต
4.ถ้าเกิดฝนตกในขณะที่ผิวหน้าคอนกรีตยังไม่แข็งตัว ให้หาวัสดุที่สามารถกันน้ำได้ เช่น แผ่นไม้ หรือ แผ่นพลาสติก มาคลุมที่ผิวหน้าไว้เพื่อ ป้องกันการชะล้างบริเวณผิวหน้าคอนกรีต
5.ไม่พรมผิวหน้าคอนกรีตด้วยน้ำเพื่อให้การแต่งผิวหน้าง่ายขึ้น
6.ทำการอัดแน่นคอนกรีตด้วยเครื่องเขย่าเฉพาะที่ผิวหน้าคอนกรีต จะช่วยทำให้ผิวหน้าคอนกรีตมีความต้านทานต่อการขัดสีดียิ่งขึ้น
7.ทำการบ่มทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการแต่งผิวหน้าและคอนกรีตเริ่มแข็งตัวโดยบ่มอย่างน้อย 3 วัน
วิธีการซ่อม ผิวหน้าคอนกรีตที่เป็นฝุ่น
1. หากเกิดขึ้นไม่มาก อาจใช้วิธีขัดด้วยแปรงลวด อย่างเช่น การทำความสะอาดถนนด้วยรถขัดทำความสะอาด ของเทศบาล
2. การขัดผิวหน้าที่เป็นฝุ่นออก วิธีการนี้จะใช้ในกรณี ที่ผิวหน้าคอนกรีตเกิดเป็นฝุ่นอย่างรุนแรง โดยการใช้เครื่องขัดผิวหน้าคอนกรีต ทำการขัดผิวหน้า (wet - grinding) ที่อ่อนแอออก ให้เรียบจนกระทั่ง เห็นเม็ดหิน ซึ่งโดยทั่วไปต้องขัดลึกประมาณ 3 มม.
3. วิธีการทับหน้า (topping) โดยการสกัดเอาส่วนผิวหน้าที่อ่อนแอ ออกแล้วจึงทำการเท topping ทับเพื่อปรับระดับให้ได้ตามที่ต้องการ ส่วนวัสดุที่ใช้ในการเททับนั้นมีอยู่หลายประเภท จึงควรเลือกใช้ประเภทที่มีแรงยึดเกาะสูง
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ไม่มากก็น้อย
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ " สารปูนช้าง ฉบับที่ 5 ไตรมาสที่ 4 ปีพุทธศักราช 2553 " ที่ให้การสนับสนุนข้อมูล
|