อลูมิเนียมคอมโพสิท เป็นวัสดุที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง โดยการนำคุณสมบัติเด่น ๆ ของวัสดุต่างชนิดมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้วัสดุชนิดใหม่ ที่มีน้ำหนักเบา นำไปใช้ภายนอกอาคาร ซึ่งต้องทนรับสภาวะอากาศทุกประเภท ทั้งร้อน ฝน หนาว หรือแม้กระทั่ง หมอกควัน ที่มีสภาพความเป็นกรด-ด่าง ตลอดจนความชื้นที่แตกต่างกันไปแต่ละฤดูกาลและยังสามารถดัดโค้งขึ้นรูปได้ง่ายอีกด้วย การใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งภายใน และ ภายนอกอาคาร เช่น ทำเป็นผนังห้อง ฝ้าเพดาน หุ้มเสา ป้ายโฆษณา หลังคากันสาด หรือ ใช้หุ้มภายนอกอาคารทดแทนการทาสี สถาปนิกนิยมใช้ในการออกแบบ - ปรับปรุงโครงสร้างอาคารขนาดใหญ่ และอาคารสำนักงาน รวมถึงงานระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมทั้งตึกแถว ออฟฟิศที่มีขนาดเล็กในปัจจุบันก็นิยมนำวัสดุดังกล่าวมาใช้ในการตกแต่งอีกด้วย แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิทนั้น โดยทั่วไปจะใช้แผ่นประกบเป็นแผ่นอลูมิเนียมบางประมาณ 0.15 - 0.50 มม. ความหนารวม มีให้เลือกตั้งแต่ 3 มม. จนถึง 6 มม. ความหนาอลูมิเนียม 0.12 มม. จนถึง 0.5 มม. และ แกนกลางเป็นโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (LDPE) ด้วยน้ำหนักเบา แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิทจะมีน้ำหนักเฉลี่ยไม่เกิน 5.50 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ( ขึ้นอยู่กับขนาดความหนารวม และ ความหนาของแผ่นอลูมิเนียม ) ซึ่งเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ ที่มีความแข็งแรงเท่าๆ กันแล้ว จะมีน้ำหนักมากกว่า คุณสมบัติที่ดีของอลูมิเนียมคือ 1. หลากหลายสี มีสีสันให้เลือกมากมายทั้งสีด้าน สีมัน ลายไม้ สีเงินมันเงา 2. ทนการกัดกร่อนได้ดี, ไม่เกิดสนิม และน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับเหล็กกับวัสดุอื่น ๆ ที่มีความแข็งแรงเท่าๆ กันแล้ว จะมีน้ำหนักมากกว่า 3. สีสันสวยงามทนนาน ใช้สารเคลือบผิวคุณภาพดีทำให้ผิวเรียบ ยึดเกาะกับแผ่นอลูมิเนียมได้ดีติดแน่น ไม่หลุดล่อน สามารถทนสภาวะอากาศที่เป็นกรด-ด่างได้ดี 4. สามารถใช้งานได้ดีในสถานที่ๆมีการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศขึ้นลงสูง 5. ทนแรงกระแทก และ กันเสียง แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิทมีข้อได้เปรียบกว่าวัสดุอื่น สามารถทนแรงกระแทกได้ดีกว่าพลาสติกและแผ่นอลูมิเนียมธรรมดาได้ถึง 6 เท่า
ระบบการติดตั้งที่นิยมใช้กันทั่วไป แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite Panel) ที่นิยมใช้กันทั่วไปมีดังนี้ 1. การติดตั้งระบบไม่มีเฟรม การติดตั้งชนิดนี้ จะใช้กับแผ่นงานที่พับขึ้นรูปแบบถาดยึดด้วยฉากอลูมิเนียม เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมใช้กันทั่วไป ทั้งงานอาคารใหม่ และการปรับปรุงอาคารเก่า โดยหลังจากติดตั้งแผ่น เข้ากับโครงแล้ว จะต้องยาแนวที่รอยต่อระหว่างแผ่นงาน ด้วยซิลิโคน ซีลแลนท์เพื่อการป้องกันน้ำเข้า 2. การติดตั้งระบบมีเฟรม โดยทั่วไปแล้ว การติดตั้งแบบไม่ยาแนวรอยต่อ ซึ่งต้องการรอยต่อที่แคบและสวยงามระหว่างแผ่น และช่วยลดปัญหาการเกิดคราบสกปรกบนผิววัสดุ เนื่องจากคราบน้ำมันของวัสดุยาวแนว 3. การติดตั้งระบบแขวน วิธีการแขวนเป็นการติดตั้งที่ง่ายและใช้กันทั่วไป วิธีนี้ช่วยทำให้การติดตั้งที่หน้างานทำได้สะดวกและรวดเร็ว เป็นระบบที่สามารถรองรับการขยายตัว หรือหดตัวของแผ่นงานเนื่องจากความร้อนได้ดี โดยแผ่นงานจะถูกแขวนไว้เท่านั้น รายละเอียดการติดตั้ง 1.การติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท โดยทุก ส่วนที่ติดตั้งจะต้องได้ระนาบทั้งในแนวตั้งและแนวนอน แนวรอยต่อแผ่นจะต้องเป็นเส้นตรงได้ฉาก มีความประณีต 2.กำหนดหาตำแหน่งงานโครงสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท เพื่อใช้คํานวณหา ตําแหน่งของโครงเคร่าและจะต้องทําการตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างทุกแห่งที่จะต้องมีการติดตั้งก่อนเสมอ
3.ต้องออกแบบระบบผนังอลูมิเนียมให้มี Coping และ Flashing รวมทั้ง รายละเอียดอื่นๆ ที่จําเป็นต่องาน โดยบริเวณที่เป็น Coping จะต้องถูกออกแบบให้ลาดเอียงเข้าไปหาตัว อาคารประมาณ 5 องศา เพื่อให้การระบายนํ้าลงไปสู่บริเวณหลังคาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและป้องกันไม่ให้เกิดคราบสกปรกขึ้นแก่บริเวณผนัง 4.ขนาดรอยต่อระหว่างแผ่นตามแนวตั้งและแนวนอน ควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 15 มม. รอยต่อแผ่นทุกชิ้นควรจะเป็นแบบร่องปิด ยาแนวด้วยซิลิโคน (กรณีที่ไม่ใช้ Open Joint) ชนิดที่ไม่ปล่อย คราบนํ้ามัน หรือ Non Staining Sealant โดยแนวร่องที่จะต้องยาแนวปิดด้วยซิลิโคน จะต้องมีโฟมเส้นรองรับอยู่ด้านหลัง (Closed Cell Polyethylene Backer Rod) และขนาดความลึกของซิลิโคนจะต้องได้รับการแนะนําจากผู้จําหน่ายซิลิโคน ยี่ห้อนั้นๆ 5.พุกต่างๆใช้เพื่อยึดโครงเคร่าหลักเข้ากับผนังคอนกรีตตลอดจนสกรู น๊อต รีเวท จะต้อง คํานวณออกแบบให้เป็นไปตามข้อกําหนดเรื่องแรงลม 6.การเชื่อมต่อผนังกับโครงเคร่าอลูมิเนียม ต้องใช้สกรูสเตนเลส โดยสกรูจะต้องมีระยะห่าง เป็นไปตามที่ผู้ผลิตแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิทได้แนะนํา 7.หากมีบริเวณใด ๆ ก็ตามที่เปิดช่องไว้เพื่อให้สามารถระบายอากาศได้ จะต้องมีตะแกรงกัน แมลงใส่เอาไว้ด้วยเสมอ 8.ต้องถอดแผ่นพลาสติกเคลือบผิวที่ปิดทับอยู่ด้านหน้า ของแผ่นออก
|