สำหรับอาชีพพ่อค้าแม่ขายนั้น กำไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะการที่ต้องลงทุน ไม่ว่าจะเป็นทุนทรัพย์ เงินต้นทุนที่ตัดสินใจโยนลงไปเพื่อหวังผลกำไรตอบแทนกลับคืนให้มากพอที่จะสามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวได้
แล้วไหนจะต้นทุนค่าแรง และค่าเสียเวลา ที่ต้องเจียดแต่ละนาที แต่ละชั่วโมง ของวันมาเพื่อนั่งขายของหรือออกไปทำธุระต่างๆเพื่อการค้า ทั้งการออกไปเลือกซื้อสินค้า บางรายพ่อค้าแม่ค้าอาจต้องข้ามน้ำข้ามทะเล หรือข้ามจังหวัดไปเพื่อหาซื้อสินค้าที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครในตลาดมาเพื่อเสนอขายให้กับลูกค้า ดังนั้นต้นทุนทั้งหมดที่คนขายของทั้งหลายลงทุนไปนั้น จึงไม่ใช่แค่ว่า ซื้อมาเท่าไหร่ และ ขายออกไปเท่าไหร่
การต่อรองราคาสินค้าเพื่อให้ได้ราคาพิเศษสุดๆนั้น เป็นที่แน่นอนว่าใครๆก็ต้องการค่ะ การได้ซื้อของในราคาถูก เรียกว่าเป็นของโปรดของเหล่านักจับจ่ายเลยก็ว่าได้นะคะ แต่การที่เราจะใช้สารพัดวิธีในการต่อรองราคาสินค้าที่ต้องการนั้นควรจะคำนึงถึงหลายๆอย่างด้วยอย่างเช่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนขายของทุกคนก็ต่างค้าขายเพื่อหวังผลกำไรแน่ๆอยู่แล้วล่ะค่ะ ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย และเมื่อคนขายตั้งราคาเอาไว้แล้ว เราก็ควรจะเคารพกติกาการซื้อขายให้เป็นไปตามนั้น ไม่ต่อรองอย่างน่าเกลียดจนคนขายมองหน้า หรือใช้สำเนียงเสียงเจรจาที่ไม่น่าฟัง การต่อรองราคาสินค้าที่ดีนั้นควรเปิดฉากด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส น้ำเสียงที่นุ่มนวลก็มีส่วนช่วยให้แม่ค้าเอ็นดูเราได้เหมือนกันนะคะ อย่าลืมว่าแม่ค้าไม่ว่าจะขายของที่ไหน ทั้งแม่ค้าในตลาด แม่ค้าในห้างสรรพสินค้า แม่ค้าในตลาดนัด หรือแม้แต่แม่ค้าออนไลน์ ทุกคนเป็นคนธรรมดาที่ต่างมีอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ ได้ไม่ต่างจากพวกเราเหมือนกันนะคะ ดังนั้นการที่เราจะสามารถซื้อสินค้าต่างๆได้ในราคาพิเศษนั้น ก็ควรอย่างยิ่งที่จะคิดถึงจิตใจของพ่อค้าแม่ค้าด้วยค่ะ เพราะพวกเขาต่างก็ต้องขายของและยังยึดการขายของนี้เป็นอาชีพหลักและก็ต้องการสร้างผลกำไรให้ได้ ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับเงินต้นทุนที่ทุ่มลงไปค่ะ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งในการซื้อสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ขนาดไหน หรือ ราคาถูกหรือราคาแพงเท่าไหร่ ลูกค้าอย่างเราๆก็ควรจะทำการต่อรองให้อยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม ไม่โหดร้าย หรือไม่ทำร้ายจิตใจพ่อค้าแม่ขายจนเกินไปนะคะ บางคนต่อราคาออกมาคำแรกนี่ทำเอาแม่ค้าหน้าหงายกันเลยทีเดียว จริงอยู่ว่าสินค้าทุกชิ้นมีกำไรอยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า เมื่อเหล่าแม่ค้าได้ลงทุนเปิดร้านซื้อสินค้าต่างๆมาขายนั้น เงินทุนที่ลงไปทั้งหมดก็ย่อมต้องการให้มันผลิดอกออกผลมาเป็นกำไรเพื่อกลับเข้าสู่กระเป๋าตัวเองค่ะ สินค้าบางชิ้นอาจมีกำไร 50-100% แต่ขณะเดียวกัน สินค้าบางอย่างในร้านก็อาจให้กำไรเพียงแค่ 10-15% เท่านั้น การต่อรองที่หนักหน่วงจนเกินไปนอกจากจะไม่ทำให้คุณได้สินค้าในราคาพิเศษอย่างใจหวังแล้ว ยังอาจทำให้คุณต้องเจอกับหน้าหงิกๆ และอาการที่แสดงถึงความไม่สบอารมณ์อย่างไม่เป็นมิตรของแม่ค้าก็เป็นได้นะคะ
มีความเข้าใจผิดอยู่ข้อหนึ่งสำหรับเทคนิคการต่อรองราคาสินค้า ลูกค้าบางคนคิด (เอาเอง) ว่า การมาบอกแม่ค้าร้านนี้ว่า ร้านข้างๆหรือคู่แข่งฝั่งโน้น เขาขายสินค้าตัวเดียวกันนี้ในราคาที่ถูกกว่าร้านนี้อีกนะ โดยคนซื้อมักคิดว่าหากพูดแบบนี้ออกไปแม่ค้าจะต้องพยายามต่อสู้กับร้านคู่แข่งด้วยการลดราคาสินค้าลงไปอีกเพื่อดึงลูกค้าเอาไว้ ขอบอกว่าความเชื่อแบบนี้ผิดมหันต์ค่ะ หากคุณหวังผลว่าจะให้เหล่าแม่ค้าลดราคาสินค้าลงมาด้วยวิธีนี้ล่ะก็คุณเตรียมใจพบกับความผิดหวังได้เลยค่ะ แถมหากบังเอิญเอ่ยออกไปในจังหวะที่ไม่ดีนักก็อาจเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันได้เหมือนกันนะคะ อย่าลืมว่าแม่ค้าก็มนุษย์ค่ะ หากบังเอิญดวงไม่ดีเจอวันที่แกอารมณ์กรุ่นๆอยู่แล้วด้วยนี่ รับรองว่าได้ถกเถียงกันมันส์แน่นอนค่ะ สาเหตุที่ประโยคแบบนี้ทำให้แม่ค้าปรี๊ดแตกมากที่สุด ก็เพราะว่าแม่ค้าจะรู้สึกว่าเราดูถูกเค้า ว่าเค้าขายของมั่วราคา ขายแพงไป
รู้ไหมคะว่า ก่อนที่บรรดาแม่ค้าจะตั้งราคาสินค้าขายออกมาได้แต่ละตัวนั้นผ่านการคำนวณแล้วคำนวณอีกค่ะ ทั้งต้นทุนสินค่า ค่าเช่าแผงขาย ค่าไฟ ค่าแรง และจะบอกให้ว่าพวกแม่ค้ารู้ราคาตลาดสินค้าของตนเองดีค่ะ คนขายของนั้นเค้ารู้ดีว่าราคาที่สามารถขายได้นั้นจะไม่มากหรือน้อยไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเมคตัวเลขขึ้นมาเพื่อพยายามจะล่อลวงแม่เค้าเลยนะคะ เพราะนอกจากจะไม่ได้ส่วนลดในราคาพิเศษแล้ว อาจเสี่ยงต่อการโดนแม่ค้าเหน็บแนมแรงๆเข้าก็เป็นได้
ข้อสุดท้ายที่เรียกว่าเป็นมารยาทพื้นฐานในการต่อรองสินค้าก็คือ หากเอ่ยปากต่อราคาไปแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องซื้อค่ะ ไม่ใช่ว่ายืนต่อราคากันจนเสียงแหบเสียงแห้ง จนในที่สุดแม่ค้า ยอมจนมุม ยอมลดราคาพิเศษให้ แต่กลับเปลี่ยนใจไม่ซื้อกะทันหันแบบนี้ ก็อาจทำให้แม่ค้าอึ้งพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว หากต่อรองอยู่ตั้งนานจู่ๆก็กลับลำเอาเสียดื้อๆ การกระทำแบบนี้ก็อาจทำให้แม่ค้าน้ำตาซึมได้เลยนะคะ ที่สำคัญ หากซื้อของด้วยนิสัยเช่นนี้บ่อยๆจะทำให้คุณเป็นที่จดจำและโจษจันกันไปทั่วตลาดสินค้าย่านนั้นไปเลยก็ได้ เพราะแม่ค้าทั้งหลายมักจะจำหน้าของลูกค้าราย”พิเศษ” ได้อย่างดีทุกรายค่ะ และบรรดาแม่ค้าแต่ละตลาดก็จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ทุกๆวัน หากคุณใช้วิธีการต่อรองราคาพิเศษ ด้วยวิธีการทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้นแล้วล่ะก็ อาจจะไม่มีแม่ค้าคนไหนเต็มใจขายสินค้าให้กับคุณอีกเลยก็ได้
แล้วถ้าอยากได้ของดี ราคาถูก จริงๆเลยล่ะ ควรทำอย่างไร? ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ใช้การพูดจาที่ไพเราะ พูดเพราะๆเข้าไว้ เลือกใช้น้ำเสียงที่ชวนฟัง ให้แม่ค้ารู้สึกถูกชะตากับเรา หรือเรียกอีกอย่างว่าหว่านเสน่ห์นั่นเองค่ะ แต่ต้องอย่าให้เกินงามนะคะ เอาให้พอดีๆ มีเทคนิคแนะนำนิดหน่อยก็คือให้เดินเลือกหาและหมายตาสินค้าที่ต้องการไว้ก่อนสักหนึ่งรอบแล้วเดินเปรียบเทียบสินค้าตัวเดียวกัน จนได้ร้านที่ราคาต่ำที่สุดมาแล้ว ก็ให้แกล้งเดินโฉบๆแบบไม่ตั้งใจมาก อย่าแสดงอาการว่าชอบหรืออยากได้ของชิ้นนั้นมากๆ แล้วจึงค่อยเอ่ยถามราคากับแม่ค้าร้านที่เราหมายปองพร้อมทั้งแสดงสีหน้าในทำนองว่ากำลังชั่งใจอยู่ว่า “เอ จะซื้อดีไหมนะ?” เมื่อคนขายบอกราคามาแล้ว ก็ให้ลองต่อรองลงมาสักหน่อย แล้วรอดูปฏิกิริยาคนขายว่าเป็นอย่างไร กำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน การสังเกตอารมณ์แม่ค้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยนะคะ หากดูแล้วสถานการณ์ปลอดโปร่งก็ทำสามารถเปิดฉากการต่อรองตกลงซื้อขายได้ แต่หากบังเอิญนาทีนั้นแกกำลังมีสีหน้าท่าทางบึ้งตึงหงุดหงิดอยู่ล่ะก็ ให้ถือว่าวันนั้นไม่ใช่วันของเราค่ะ อาจตัดใจซื้อของที่อยากได้มาเลยโดยไม่ต้องต่อรอง หรือ อาจค่อยแวะมาใหม่วันหลังก็ได้ค่ะ
โดยส่วนใหญ่แล้วคนขายจะไม่ลดราคาแบบพิเศษให้ทันทีในทันทีที่เราต่อครั้งแรก ให้เรายิ้มสักหน่อยเพื่อแสดงความเป็นมิตร แล้วลองแย้มไปอีกสักครั้ง ในทำนองว่า นะคะ ขอราคาพิเศษสักหน่อย จะได้มาเป็นลูกค้าประจำบ่อยๆ อ้อนแม่ค้าบ้างสักนิด เมื่อแม่ค้าเห็นท่าทีที่อ่อนน้อมเป็นมิตรของเรา ก็มีโอกาสมากค่ะที่แม่ค้าจะยอมใจอ่อน ยอมขายสินค้าให้กับเราในราคาถูกลง อย่างที่เราต้องการก็ได้นะคะ
อาชีพแม่ค้านั้นก็ต้องเผชิญความเหน็ดเหนื่อย และความเครียดจากการพบเจอผู้คนสารพักแบบ เหมือนๆกับพวกเราทุกคนนี่แหละค่ะ มีวันที่อารมณ์ดีบ้าง ร้ายบาง อยากจะลดราคาบ้าง ไม่อยากลดบ้าง แล้วแต่สถานการณ์ต่างๆกันไป การเอาใจเขามาใส่ใจเรา และการคบค้ากันด้วยความจริงใจตรงไปตรงมา ก็จะสร้างประโยชน์ให้กับเราได้มากกว่าการต่อรองราคาแบบเอาเป็นเอาตายโดยไม่เห็นอกเห็นใจคนค้าขายเลย ก็ยากที่จะได้ซื้อของในราคาดีๆได้ค่ะ
จริงใจไว้ก่อนดีกว่าค่ะ รับรองว่าคุณจะได้สินค้าคุณภาพดีๆ ราคาถูกๆ ในราคาพิเศษ สมใจหวังอย่างแน่นอนค่ะ
จากใจ.....แม่ค้าคนหนึ่ง
|