การต่อผ้า ปะผ้า ศิลปะในการสร้างลวดลายที่ไม่ธรรมดา
ศิลปะในการต่อผ้า และการปะผ้านั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อไร และใครเป็นคนแรกที่ทำ ไม่มีบันทึกหลักฐานเอาไว้ แต่พอเดาได้ไม่ยากว่า เกิดก่อนที่จะประดิษฐ์เข็มใช้งานกัน ซึ่งมีมาเกือบห้าหมื่นปีมาแล้ว และ ผ้านั้น เริ่มแรก ก็เกิดจากการนำขนสัตว์มาปั่นแล้วทอเป็นด้าย และจึงนำมาทอเป็นผืนผ้าต่อมาคะ ศิลปะการนำมาต่อๆกันนั้น ก็คงจะเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อมาคะ ซึ่งหากนับระยะเวลาแล้ว ก็นานมากๆๆ
Last Update : 14/11/2013 14:39:52
กระเป๋าผ้า
Brand : -
Last Update : 14:24:27 14/11/2013
หมวก
Last Update : 03:27:30 29/04/2013
หมวก
Last Update : 03:26:58 29/04/2013
หมวก
Last Update : 03:25:51 29/04/2013
หมวก
Last Update : 03:25:03 29/04/2013

การต่อผ้า ปะผ้า ศิลปะในการสร้างลวดลายที่ไม่ธรรมดา

Last Update : 14:39:52 14/11/2013
Page View (2180)

ศิลปะในการต่อผ้า และการปะผ้านั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อไร และใครเป็นคนแรกที่ทำ ไม่มีบันทึกหลักฐานเอาไว้ แต่พอเดาได้ไม่ยากว่า เกิดก่อนที่จะประดิษฐ์เข็มใช้งานกัน ซึ่งมีมาเกือบห้าหมื่นปีมาแล้ว และ ผ้านั้น เริ่มแรก ก็เกิดจากการนำขนสัตว์มาปั่นแล้วทอเป็นด้าย และจึงนำมาทอเป็นผืนผ้าต่อมาคะ ศิลปะการนำมาต่อๆกันนั้น ก็คงจะเกิดขึ้นเป็นลำดับต่อมาคะ ซึ่งหากนับระยะเวลาแล้ว ก็นานมากๆๆ

สมัยก่อนนั้น ในช่วงอุตสาหกรรม ยังไม่บูมมากนัก ทั้งจักร และผ้า มีราคาแพงมาก มูลค่าสูงกว่าทองคำด้วยซ้ำไป 

ผ้าใหญ่ๆที่นำมาทำเป็นชิ้นงานใหญ่ๆนั้้น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ติดตัว เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เฟอร์นอกบ้าน เมื่อมีเศษเหลืออยู่ จะทิ้งไปก็เสียดาย จึงเกิดการนำมาเย็บต่อๆกันเป็นข้าวของเครื่องใช้ ในสมัยก่อนเราจึงจะเห็นทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่มีการซ่อมด้วยการปะชุน และนำมาต่อกันเป็นของใช้ต่าง เช่น ผ้าห่ม ไว้ใช้งาน เป็นต้น 

ที่เห็นโดยทั่วๆไป และแทบทุกหลังในไทยเอง แม่บ้านก็จะสามารถสนเข็ม ซ่อมแซม เย็บ ปะ ได้กันเกือบทั้งหมด แม้จะไม่มีจักรใช้งานก็ตาม

ตามที่ 
www.visavivamarts.com ไป หาข้อมูลมา การปะชุน การต่อผ้า ที่ค้นพบในไทยนั้น ยังไม่ได้ระบุที่มาชัดเจน แต่ศิลปะทุกอย่างที่เกิดแพร่หลายกันต่อมานั้น ล้วนมีที่มาจากในวังของไทยทั้งสิ้น เพราะเป็นที่รวบรวมสรรพศาสตร์ต่างๆของเรา ส่วนในต่างประเทศ จะมีหลักฐานว่า เกิดขึ้นในประเทศในแถบยุโรป  

แล้วงานทั้งสองแบบนี้แตกต่าง หรือเหมือนกันอย่างไร

งานทั้งสองอย่างนี้ ส่วนใหญ่นั้น มักเป็นงานแฮนด์เมด หากต้องการงานที่ละเอียด แต่จักรนั้นก็ไม่ใช่จะไม่แฮนด์เมดซะทีเดียว แล้วใช้มือกับใช้จักร แตกต่างกันตรงไหน ความต่างจะอยู่ที่ความเนี๊ยบในการทำชิ้นงานออกมา เช่น หากต่อและปะ ด้วยจักร จะเห็นรอยด้ายโผล่ให้เห็น และบริเวณที่เย็บไป จะเห็นความแข็งกระด้างมากกว่าการเย็บด้วยมือ ที่จะซ่อนด้าย และงานออกมามีความละมุนมากกว่า เป็นต้น

อ้อมไปซะไกลคะ กลับมาดูความหมายของคำทั้งคู่กันคะ

การต่อผ้า ความหมายจริงๆนั้น ก็ตรงตัวเลย คือ การนำชิ้นส่วนที่เหลือต่างๆ ไม่ว่าจะรูปทรงใดๆ มาเย็บต่อกัน โดยปกติจะตัดให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมต่างๆ เพราะง่ายในการนำด้านเท่ามาเย็บต่อกันคะ ในยุคแรกๆจะเน้นการใช้งานเป็นหลัก เช่นการต่อออกมาเป็นผืนใหญ่ๆ แล้วยัดนวมให้กลายเป็น ผ้าห่มกันหนาว ต่อมา เริ่มใส่ความสวยงาม และศิลปะเติมเข้าไป เป็นการนำเศษที่ได้ มาเลือกสี เลือกลาย วาดแพทเทิร์น แล้วมาเย็บต่อกันเป็นภาพ เป็นเรื่องราวภาพวาดต่างๆ นอกจากใช้เป็นภาพใส่กรอบ แต่งผนังแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นตัวตกแต่ง เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระเป๋า เครื่องแต่งกาย ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น

ส่วนการปะผ้า นั้นหมายถึง การนำลวดลาย ลายผ้าต่างๆ มาปะติดชิ้นงาน เพื่อให้มีความสวยงาม เป็นขั้นตอนในการประดับตกแต่งชิ้นงานนั่นเองคะ 

เมื่อนำมาใช้กับงานควิลท์ การปะ และการต่อนั้น เป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง ในการประดิษฐ์ชิ้นงานให้ออกมาสวยงานตามจินตนาการของผู้สร้างสรรค์

ศิลปะ ไม่ว่าจะยุคใด ประเทศใดนั้น เป็นตัวแสดงออกว่า บ้านเมืองนั้นสงบ ยิ่งมีความสงบ อยู่ดีกินดี ก็จะมีเวลาในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ

ในไทยนั้น จะเกิดในวัง เช่นเดียวกับต่างประเทศ ก็จะเกิดในกลุ่มไฮโซ ผู้มีอันจะกินก่อน แล้วค่อยแพร่ขยายออกมาสู่สาธารณชนมากขึ้น

ในประเทศไทยเอง ช่างฝีมือทางด้านนี้มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งศิลปะประเภทนี้นั้น เป็นพื้นฐานอย่างนึงในการทำงานศิลปะแขนงนี้ แต่ยังมีอยู่อีกหลายๆอย่างเลย เช่น การปัก การทอ เป็นต้น



 
© 2000-2008 CopyRight by luckleamtong
Tel. 089-1567457, 089-3213751  Website. www.ผ้าปะติด.com
disclaimer | privacy | contact us 

  Sale Login Warehouse Login Driver Login