เด็กร้อยทั้งร้อยเกิดมาพร้อมกับเท้าที่มีโครงสร้างสมบูรณ์แบบ แต่ทำไม้? ผู้ใหญ่อย่างเราถึงกลายเป็นคนมีปัญหาเรื่องเท้ากันมากมาย ปวดเมื่อย เท้าเก เดินปัด เดินเป๋ ชนิดว่าบางคนหารองเท้าใส่ให้สบายเท้ายากจริงๆ แปลว่าระหว่างที่เราเติบโต มันต้องมีอะไรมาทำให้เท้าของเราผิดธรรมชาติไปแน่
เท้าเด็กทารกกระทั่งเด็กเล็กๆ กระดูกเท้ายังเป็นกระดูกอ่อนอยู่ จนกว่าจะอายุ 18 ปีนั่นแน่ะถึงจะเป็นกระดูกแข็งเต็มที่ เท้าเด็กจึงมีความยืดหยุ่น และรองเท้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะเป็นสิ่งบั่นทอนความสมบูรณ์แบบของโครงสร้างเท้าไปโดยเราไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อเกิดอาการปวดเมื่อยเท้า ไม่สบายเท้านั่นละ
เท้าหนูต้องการอิสรภาพ
เท้าน้อยๆ ของลูกแรกเกิดนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดูนักหนา แสนจะนุ่มนิ่ม อวบอิ่ม นิ้วเล็กๆ อวบงอน เท้าลูกต้องการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไม่ถูกจำกัดในที่คับแคบนานๆ เช่นใส่ถุงเท้า รองเท้าคับๆ คุณพ่อคุณแม่บางคนเห่อค่ะ เห็นรองเท้าถุงเท้าเด็กคู่น้อยๆ น่าเอ็นดูอดใจไม่ได้ ซื้อมาให้ลูกใส่ตั้งแต่ลูกยังเดินไม่เป็น ..ไม่ต้องรีบร้อนนักหรอก
จริงๆ แล้ว ถึงลูกกำลังหัดเดิน(ช่วงวัย 10-11 เดือน)ก็ยังไม่ต้องเร่งด่วนซื้อ รอจนกว่าลูกจะเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว(โดยไม่ต้องคอยจูง ซึ่งอยู่ในช่วงวัย 11 เดือนขึ้นไป เด็กแต่ละคนเดินได้ช้าเร็วต่างกัน) นั่นละค่อยซื้อรองเท้าคู่แรกให้ลูก และควรจะใส่ให้ลูกต่อเมื่อออกไปข้างนอกเพื่อปกป้องเท้าลูกจากสิ่งสกปรก
แต่ถ้าไม่จำเป็นแล้ว ให้โอกาสเท้าลูกได้เดินอย่างมีอิสระให้มากที่สุดเถอะ
พิถีพิถันเลือกหน่อย
รองเท้าคู่แรกนี่สำคัญที่สุด จะเรียกว่าเป็นรองเท้าที่ชี้ชะตาอนาคตของเท้าก็ว่าได้ เท้าลูกจะมีอนาคตเป็นเท้าที่บิดเบี้ยว เก เดินเฉไปเฉมาหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่จุดเริ่มต้นนี่ละ
รองเท้าที่ดีจะต้องทำให้เท้าเติบโตได้รูปตามธรรมชาติมากที่สุด นั่นคือจะต้องไม่คับหรือหลวม มีขนาดกว้างที่พอเหมาะรับกับรูปเท้า ร้านรองเท้าที่ได้มาตรฐานจะมีที่วัดความยาวความกว้างของเท้า ทำให้สามารถเลือกขนาดรองเท้าได้พอดี แน่นอนว่าร้านรองเท้าที่มีมาตรฐานย่อมขายรองเท้าได้มาตรฐานและราคาย่อมแพงตามคุณภาพด้วย วัสดุที่ใช้จะต้องนิ่ม ยืดหยุ่นได้ตามการเคลื่อนไหวของเท้า โดยเฉพาะด้านหัวรองเท้า จะต้องกว้างพอให้นิ้วเท้าแบออกได้เต็มที่ ไม่เช่นนั้นนิ้วเท้าของลูกจะถูกกดให้งองุ้ม
ขอเถอะ ที่จะซื้อรองเท้าให้ลูกเพราะหลงรักรูปแบบที่สวยงามน่าเอ็นดู หรือเห็นว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของแพงๆ เพราะลูกใช้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนมาคิดกันว่าคุณภาพต้องมาก่อนจะดีสำหรับลูกมากกว่านะ
รองเท้าที่ดีจะต้องกระชับ เพราะฉะนั้นรองเท้าคู่แรกของลูก(หรือรองเท้าที่ลูกใช้ประจำ)ไม่ควรเป็นรองเท้าแตะเปิดส้น อย่างน้อยจะต้องมีสายรัดกระชับข้อเท้าและที่ส้น รองเท้าที่กระชับจะช่วยประคองกล้ามเนื้อเท้า และการทรงตัวในเวลาเดินได้ดี รู้อย่างนี้แล้วอย่าซื้อรองเท้าหลวมเผื่อลูกโตเร็วนะ
เวลาเลือกซื้อ เลือกขนาดที่ยาวกว่าเท้าจริงสัก 2 ซม.(ครึ่งนิ้ว) ให้ลูกเดินกลับไปกลับมา ดูว่าส้นเท้าลูกหลุดจากรองเท้าหรือเปล่า ลูกใส่สบายไหมโดยสังเกตดูว่าลูกเดินเต็มเท้าหรือเขย่งเก็งกอย ถ้าเดินได้เต็มเท้า ทรงตัวได้ดี แปลว่าคู่นี้เหมาะ แล้วสำรวจด้วยว่ามีตะเข็บรอยต่อหรือขอบแข็งคมไหม เพราะจะเสียดสีหลังเท้าและข้อเท้าลูกให้เจ็บได้
เด็กๆ โตเร็ว เท้าลูกก็เช่นกัน อาจจะโตขึ้นสักครึ่งเบอร์ในเวลาเพียง 2 เดือน ลองเช็กขนาดเท้าลูกดูบ่อยๆ จะได้รู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่หรือยัง เด็กเล็กเขายังบอกไม่ได้หรอกว่ามันคับแล้วนะ ถุงเท้าก็เหมือนกัน ควรเปลี่ยนขนาดให้ลูกด้วย ไม่ใช่ทู่ซี้ใส่คู่เดิมไปนานๆ เพราะเห็นว่ามันยืดได้
จะดีที่สุดถ้า..ไม่ให้ลูกใช้รองเท้าเซคกั้นแฮนด์ เพราะเท้าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน สังเกตไหม อย่างเราๆ บางคนเท้ายาว บางคนเท้าสั้น อ้วน ผอมไม่เหมือนกัน(ยกเว้นพี่น้องที่อาจจะคล้ายกันโดยกรรมพันธุ์) และรองเท้าใช้แล้วรูปทรงอาจจะเสีย ไม่สามารถประคับประคองโครงสร้างที่อ่อนนุ่มของเท้าลูกได้ หรืออาจจะเปลี่ยนไปตามรูปเท้าของเจ้าของเดิม
รองเท้าคู่แรกของลูก พิถีพิถันเลือกกันหน่อย ทุกย่างก้าวของลูกอยู่ในมือคุณแล้ว
เพื่อสุขภาพเท้าของเจ้าตัวน้อย
- ตรวจดูว่าเมื่อลูกสวมรองเท้า ลูกสามารถเคลื่อนไหวหรือแบนิ้วเท้าได้เต็มที่หรือไม่
- พื้นรองเท้าควรเป็นวัสดุที่นุ่ม เบา ยืดหยุ่นได้ดี
- อย่าเร่งให้ลูกเดินเร็วนัก เขาพร้อมเมื่อไรเขาจะเดินเอง
- ให้ลูกเดินเท้าเปล่าในช่วงหัดเดิน
- ตรวจวัดขนาดเท้าของลูกอยู่เสมอ เพื่อจะได้เห็นว่าเท้าลูกโตขึ้นแค่ไหน
- รักษาความสะอาดของรองเท้าลูกอยู่เสมอ และตัดเล็บเท้าลูกให้สั้น
ที่มาจาก : Momypedia.com
|