เรื่องของเท้าที่ไม่ควรก้าวข้าม
เชื่อมั้ยว่า 70% ของประชากรโลกมีอาการเสี่ยงต่อปัญหาปวดส้นเท้า เข่า และกระดูกสันหลัง โดยสาเหตุจากความผิดปกติของเท้า
Last Update : 16/11/2013 13:36:11
ภาวะมะเร็งเข้ากระดูก
โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่ไม่แสดงอาการใดๆ เลยในระยะแรก ต่อมาจะเริ่มปวดนิดๆ และปวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กระดูก ซึ่งเกิดขึ้นได้ในกระดูกทุกชิ้นของร่างกาย ต่อเมื่อเริ่มรู้สึกปวดมากจนทนไม่ไหวและไปพบแพทย์ เมื่อถึงช่วงนั้นความรุนแรงของภาวะมะเร็งเข้ากระดูกก็มีสูง หากเปรียบเทียบความรุนแรงของโรคคือ ขั้นที่ 4 ซึ่งยากต่อการรักษาให้หาย
Last Update : 16/11/2013 10:37:21
การบริหารส่วนขาสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวาน จำเป็นต้องมีการปรับปรุงข้อบกพร่องของระบบหมุนเวียนเลือดของขา และเท้าโดยการออกกำลังกายเป็นประจำ และการอดบุหรี่ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
Last Update : 08/11/2013 13:54:10
ผู้หญิง..วัยหมดประจำเดือนระวังเข่าเสื่อม!!
มื่ออายุมากขึ้นร่างกายย่อมเสื่อมโทรมไปตามวัยเป็นธรรมดา โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องผจญกับโรคภัยทางสุขภาพของสตรี
Last Update : 08/11/2013 10:39:35
การปฐมพยาบาล ข้อ, กระดูก
การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ หรือเจ็บป่วยกระทันหัน ณ สถานที่เกิดเหตุ ให้พ้นอันตราย ก่อนที่จะส่งไปให้แพทย์รักษาต่อไป โดยใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือเท่าที่หาได้ในขณะนั้น
Last Update : 07/11/2013 15:05:44
ผ้าฟองน้ำทำความสะอาดอเนกประสงค์
Brand : Spa Wet
Model : Spa Wet
Last Update : 10:38:35 10/12/2014
ชุดกิ๊ฟเซ็ทคลีนชูส์
Brand : KLEEN SHOES
Model : gift set kleen shoes
Last Update : 13:15:42 28/11/2014
สปอร์ตซัพพอร์ตพลัส(หัวเข่า)
Brand : KLEEN SHOES
Model : Sport Support Plus (knee)
Last Update : 16:21:11 27/11/2014
สปอร์ตซัพพอร์ตพลัส (ข้อเท้า)
Brand : KLEEN SHOES
Model : Sport Support Plus (ankle)
Last Update : 16:19:30 27/11/2014
สปอร์ตซัพพอร์ตพลัส (ข้อศอก)
Brand : KLEEN SHOES
Model : Sport Support Plush (elbow)
Last Update : 16:17:45 27/11/2014

ข้อแพลง ไม่ธรรมดา อาจแฝงโรคอื่น

Last Update : 11:45:43 07/10/2013
Page View (2194)

          ข้อแพลง ไม่ธรรมดา อาจแฝงโรคอื่น

     ข้อแพลง


   ข้อเพลงมักเกิดจากการได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น เดินข้อพลิก ข้อบิด หรือสะดุด หกล้ม เป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง สามารถให้การดูแลรักษาด้วยตนเอง ซึ่งมักจะหายได้เองภายใน 3-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูแล 2-3 วันแล้วไม่ทุเลา หรือมีอาการปวดรุนแรงหรือสงสัยเกิดจากสาเหตุอื่น ก็ควรรีบไปปรึกษาหมอที่อยู่ใกล้บ้าน

ชื่อภาษาไทย : ข้อเพลง ข้อเคล็ด

ชื่อภาษาอังกฤษ : Sprains, Strains

     สาเหตุ

     เกิดจากเส้นเอ็น และ/หรือ กล้ามเนื้อที่ยึดอยู่รอบ ๆ ข้อต่อกระดูกมีการฉีก เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ เช่น หกล้ม ข้อบิด ข้อพลิก ถูกกระแทก หรือยกของหนัก

     อาการ


          +ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเจ็บที่ข้อหลังได้รับบาดเจ็บทันที โดยจะเจ็บมากเวลาเคลื่อนไหวข้อ

          +ข้อจะมีลักษณะบวม และใช้นิ้วกดถูกเจ็บ อาจพบรอยเขียวคล้ำ หรือฟกช้ำ เนื่องจากหลอดเลือดฝอยแตกร่วมด้วย

          +อาการจะรุนแรงมากน้อยขึ้นกับปริมาณของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อที่ฉีกขาด

          +ข้อเพลงมักเกิดขึ้นเพียง 1 ข้อ ที่พบบ่อยได้แก่ ข้อเท้า (ทำให้เดินกะเผลก) นอกจากนี้ อาจเกิดที่ข้อเข่า ข้อไหล่ ข้อมือ หรือข้อนิ้ว


     การแยกโรค

   อาการปวดข้อ ข้อบวม ที่เกิดขึ้นฉับพลันอาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่สำคัญ ได้แก่


     ข้อกระดูกแตกร้าว

   มักเกิดหลังได้รับบาดเจ็บและมีอาการคล้ายข้อแพลง แต่มักมีอาการรุนแรงและหายช้ากว่าข้อแพลง ในกรณีที่คิดว่าเป็นข้อแพลง ถ้าให้การดูแล 2-3 วันแล้วไม่ทุเลา ก็อาจเกิดจากข้อกระดูกแตกร้าว


     เกาต์

   ผู้ป่วยจะมีอาการข้ออักเสบ (ข้อปวด บวม แดง ร้อน) ฉับพลัน ส่วนใหญ่เป็นที่ข้อหัวแม่เท้าเพียง 1 ข้อ บางรายอาจเป็นที่ข้อเท้าหรือข้ออื่น ๆ มักกำเริบหลังกินเลี้ยง ดื่มเหล้า หรือกินเครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ ผักยอดอ่อน หรือพืชหน่ออ่อนปริมาณมาก บางครั้งการบาดเจ็บที่ข้อ (เช่น เดินสะดุด หกล้ม) ก็อาจทำให้โรคเกาต์กำเริบได้ ซึ่งอาจทำให้คิดว่าเป็นเพียงข้อแพลง ผู้ป่วยโรคเกาต์บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย


     ไข้รูมาติก

   มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะมีอาการข้ออักเสบรุนแรง เกิดขึ้นฉับพลันที่ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ หรือข้อศอกเพียงข้อเดียว โดยไม่มีประวัติได้รับบาดเจ็บที่ข้อบางรายอาจมีประวัติเป็นไข้ เจ็บคอ หรือทอนซิลอักเสบมาก่อนปวดข้อ 1-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยมักมีไข้ร่วมด้วย


     ก้อนฝีที่ข้อ

    ระยะแรกที่เริ่มมีอาการบวมแดงร้อนและปวด อาจทำให้คิดว่าเป็นข้อแพลง ต่อมาฝีจะบวมเป่งเป็นก้อนชัดเจนขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจมีใช้ร่วมด้วย

 

     การวินิจฉัย

   แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติได้รับบาดเจ็บที่ข้อ (เช่น ข้อพลิก เดินสะดุด หกล้ม) แล้วเกิดอาการข้อบวมและปวด เคลื่อนไหวข้อลำบาก (เช่น ข้อเท้าพลิก ทำให้เดินไม่ถนัด หรือเดินกะเผลก)

   ในรายที่สงสัยข้อกระดูกแตกร้าวหรือหักแพทย์จะทำการเอกซเรย์

   ในรายที่สงสัยเป็นข้ออักเสบจากสาเหตุอื่น อาจต้องทำการตรวจเลือด หรือตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม

 

     การดูแลตนเอง

   1.พักการใช้ข้อที่แพลง กล่าวคือ ให้ข้อนั้นอยู่นิ่ง ๆ ขยับเขยื้อนให้น้อยที่สุด 

               - ถ้าข้อเท้าแพลงก็พยายามหลีกเลี่ยงการเดินหรือยืนด้วยเท้าข้างที่บาดเจ็บ และยกให้สูง (เวลานอนก็ใช้หมอนรองให้สูง หรือเวลานั่งควรยกเท้าวางบนโต๊ะ หรือเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง อย่าห้อยเท้าลง

               - ถ้าข้อมือแพลง ควรยกข้อมือให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ โดยใช้ผ้าคล้องคอ และอย่าใช้ข้อมือข้างนั้น

   2.ในกรณีที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บในระยะ 48 ชั่วโมงแรก ให้ประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำเย็น (ถ้าเป็นที่ข้อเท้า อาจใช้เท้าแช่ในน้ำเย็น) นาน 15-30 นาที วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวมและปวด

   3.ถ้าปวดมาก ให้กินยาพาราเซตามอลบรรเทา

   4.ในระยะหลังบาดเจ็บ 48 ชั่วโมงไปแล้วหรือเมื่อข้อบวมเต็มที่แล้ว ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ นาน 15-30 นาที วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อลดอาการอักเสบ อาจใช้ขี้ผึ้ง น้ำมันระกำ ยาหม่องหรือเจลทาแก้ข้ออักเสบ ทานวด

   5.ถ้าเป็นมากจนเคลื่อนไหวข้อนั้นไม่ได้เลย หรือสงสัยกระดูกแตกร้าว หรือเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อขาด หรือดูแลตนเอง 2-3 วันแล้วไม่รู้สึกดีขึ้นให้รีบไปหาหม


     การรักษา

   นอกจากแนะนำให้ดูแลตนเองดังกล่าวแล้ว บางรายแพทย์อาจให้ผู้ป่วยกินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน) และอาจใช้ผ้าพันแผลชนิดยืด (elastic bandage) พันรอบข้อที่แพลงพอแน่น เพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อและลดบวม

   ในรายที่พบว่ามีข้อแพลงรุนแรง อาจต้องเข้าเฝือกหรือพบว่ามีการขาดของเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อ ก็อาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดซ่อมแซม


     ภาวะแทรกซ้อน

   มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ยกเว้นในรายที่ดูแลตนเองไม่ถูกต้อง (เช่น ไม่ค่อยได้พักข้อที่แพลง) อาจมีอาการบวมเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังได้ หรือทำให้ข้อเสื่อมเร็ว


     การดำเนินโรค

   เมื่อได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง อาการปวดจะทุเลาขึ้นภายใน 2-3 วัน และอาการปวดและบวมจะลดน้อยลงชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ และหายขาดภายใน 3-4 สัปดาห์


   ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องหรือยังฝืนใช้งานข้อที่แพลงต่อไป ก็อาจเรื้อรังเป็นเวลา 2-3 เดือนขึ้นไป


     การป้องกัน

   1.หมั่นบริหารข้อต่าง ๆ ด้วยวิธียืดเหยียดข้อต่าง ๆ เป็นประจำ

   2.ป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ เช่น อย่าเดินบนพื้นผิวขรุขระ หรือในที่มืดสลัว หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง ควรสวมใส่รองเท้าที่กระชับพอเหมาะ


     ความชุก

    โรคนี้พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หมอชาวบ้าน



 
© 2000-2008 CopyRight by M C I International Co., Ltd.
Tel. 02-223-5549  Fax. 02-225-1494
disclaimer | privacy | contact us 

  Sale Login Warehouse Login Driver Login