การตรวจ....ไขมัน....ในเลือด

          การตรวจไขมันในเลือด จะตรวจเพียง โคเลสเตอรอลรวม อย่างเดียวไม่ได้ ต้องตรวจไขมันอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น

            1. โคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol)

            2. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)

            3. HDL-Cholesterol (ไขมันชนิดดี)

            4. LDL- Cholesterol (ไขมันชนิดไม่ดี)

โคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) : เป็นค่าที่วัดระดับโคเลสเตอรอลรวมซึ่งมีทั้งโคเลสเตอรอลชนิดดีและโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีปนกัน

            ค่าผลตรวจ Total cholesterol โดยทั่วไป ดังนี้

            ค่าน้อยกว่า 200 mg/dL ปกติ

            ค่าช่วง 200-239 mg/dL เริ่มสูง

            ค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 240 mg/dL ความเสี่ยงสูง

            โคเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในเลือด แม้ไม่สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้ แต่ก็มีประโยชน์ในการสร้างกรดน้ำดีซึ่งช่วยในการย่อยอาหารสร้างฮอร์โมนบางชนิดและวิตามินดีรวมทั้งเป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์  โดยร่างกายสามารถสังเคราะห์ไขมันโคเลสเตอรอลได้เองที่ตับ แต่เมื่อใดที่โคเลสเตอรอลในเลือดมีมากเกินความต้องการของร่างกายคือมากกว่า 200 mg/dl โคเลสเตอรอลเหล่านี้มีโอกาสไปสะสมใต้ผนังหลอดเลือดด้านในมากขึ้น ทำให้หลอดเลือดตีบและอุดตันในที่สุด โดยทั่วไประดับโคเลสเตอรอลรวมที่ตรวจพบจะมาจากโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-Cho) ประมาณร้อยละ 70 และเป็นไขมันชนิดที่ดี(HDL-Cho) และไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ประมาณร้อยละ 17

ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) : ทำหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมันที่เรารับประทานไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ ไขมันที่ซ่อนอยู่ในอาหารชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่ คือ ไตรกลีเซอไรด์

            การมีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเช่นเดียวกับโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้ามีมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการไตรกลีเซอไรด์จะถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อไขมัน สะสมอยู่ภายในร่างกายซึ่งเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หัวใจขาดเลือดได้

            ค่าผลตรวจ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) โดยทั่วไป ดังนี้

            ค่าน้อยกว่า 150 mg/dL ปกติ

            ค่าช่วง 150 – 199 mg/dL เกือบสูง

            ค่าช่วง 200 – 499 mg/dL สูง

            ค่ามากกว่า 500 mg/dL สูงมาก

            ไขมัน HDL (High Density Lipoprotein) : เป็นไขมันที่ทำหน้าที่จับโคเลสเตอรอลจากเซลล์ของร่างกายและนำไปกำจัดทิ้งที่ตับ ดังนั้นจึงเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย ถ้ามีระดับ HDL-Cholesterol สูง จะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยลง

            ค่าผลตรวจ HDL โดยทั่วไป ดังนี้

            น้อยกว่า 40 mg/dL ต่ำ

            มากกว่า 60 mg/dL ดี

            ไขมัน LDL (Low Density Lipoprotein) : เป็นอนุภาคที่ทำหน้าที่ขนส่งโคเลสเตอรอลไปตามกระแสเลือด LDL สามารถจับกับผนังเส้นเลือดได้ทำให้เกิดการสะสมโคเลสเตอรอลบนผนังเส้นเลือด เพราะฉะนั้น LDL จึงเป็นอนุภาคไขมันชนิดไม่ดี ซึ่งจะบ่งชี้ได้ว่าเรามีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากหรือน้อย

            ค่าผลตรวจ LDL โดยทั่วไป ดังนี้

            ค่าน้อยกว่า 130 mg/dL ปกติ

            ค่าช่วง 130 – 160 mg/dL สูงเล็กน้อย

            ค่ามากกว่า 160 mg/dL สูง

การลดระดับโคเลสเตอรอลด้วยอาหาร

            การรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการถือเป็นรากฐานสาคัญในการป้องกันและรักษาโคเลสเตอรอลในเลือดสูงที่ดีที่สุด โดยมีหลักปฏิบัติสำคัญๆ ดังต่อไปนี้

            1. ลดปริมาณไขมันที่รับประทานให้น้อยลง

            2. หลีกเลี่ยงอาหารที่กรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน มันสัตว์ต่างๆ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ นม เนยแข็ง ครีม ฯลฯ

            3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปลาหมึก หอย

            4. รับประทานอาหารที่มีเส้นใยให้มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล

            5. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเหมาะสม เช่น ปลาต่างๆ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน