ตั้งย่ง ฮั่วเฮง
ผู้จัดการฝ่ายขาย
081-9292464
[email protected]
puttapong pongthummarak
excecutive sale
0819292464
[email protected]
คุณสมบัติและประโยชน์ของไม้
คุณสมบัติและประโยชน์ของไม้แต่ละชนิด เพื่อให้เข้าใจและเลือกใช้ไม้ได้อย่างเหมาะสม
Last Update : 28/12/2019 12:00:02
ชนิดไม้เนื้อแข็งที่ทำเฟอร์นิเจอร์
ชนิดไม้ที่นำมาทำเฟอร์นิเจอร์
Last Update : 20/12/2016 09:45:07
ประเภทและชนิดไม้ที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
ประเภทและชนิดไม้ที่ประเทศไทยนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
Last Update : 09/08/2014 10:41:01
ความเข้าใจในเรื่องของขนาดไม้
การเลือกวัสดุประเภทไม้มาใช้งาน ผู้ออกแบบ และ ผู้ใช้งานควรจะมีความรู้ความเข้าใจในขนาดของไม้ ที่มีอยู่ในท้องตลาด เพื่อให้งานไม้ที่ออกมาได้เหมาะกับการใช้งานและความคุ้มค่าสูงสุด
Last Update : 03/08/2014 20:53:10
การทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้โครง
การทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้โครง เป็นกรรมวิธีที่ค่อนข้างสะดวก งานที่ได้ออกมาก็สวยงาม คุณภาพดี น้ำหนักไม่สูงเกินไป ทำให้ปลอดภัยขึ้นเวลาขนส่ง
Last Update : 13/05/2014 10:31:50
โต๊ะระดับ 3-6
Brand : TYG
ขนาด 150x80x75 ขาโต๊ะเป็นเหล็กสี่เหลี่ยม ขนาด 1 นิ้ว หนา 0.8 มม. ตัวโต๊ะทำด้วย โครงเคร่าไม้เนื้อแข็ง กรุด้วยไม้อัดสักอิตาลี ตัวโต๊ะด้านซ้ายเป็น ตู้บานเปิดใหญ่ ภายในมีแผ่นชั้น - ด้านขวามีลิ้นชักและตู้บานเปิด
Last Update : 15:01:10 17/01/2023
หน้าโต๊ะไม้ยางพาราประสาน (ไม่ทำสี สำหรับสาย DIY)
Brand : REALWOODPC
หน้าโต๊ะไม้ยางพาราประสาน ไม่ทำสี สำหรับสาย DIY มีให้เลือกหลายขนาด
Last Update : 16:59:00 10/12/2022
โครงไม้ยางพารา (Rubber wood - Studding)
ไม้โครง ยางพารา (Rubber wood - Studding Lumber)
Last Update : 08:57:43 22/11/2022
โครงไ้ม้เบญจพรรณ จ๊อย
ไม้โครง เบญจพรรณ จ๊อย (มัดละ 10 เส้น) 17mm x 41mm x 250cm
Last Update : 08:50:23 22/11/2022

การทำสีเฟอร์นิเจอร์สำหรับภายนอก

Last Update : 15:28:52 23/04/2014
Page View (2170)

ภาพเก้าอี้สนามที่ผ่านการตากแดดฝนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทเฟอร์นิเจอร์สนาม  (outdoor furniture, garden furniture ) ที่ต้องโดนแดดโดนฝน เป็นประจำ ตัวเนื้อไม้ที่โดนรังสี UV จะทำให้ไม้ค่อนข้างจะผุพังเร็ว ตัวไม้จะมีสีซีดจางและร่องเสี้ยงตามเนื้อไม้ที่กว้างและลึก หรือบางครั้งก็มีรอยแตกร้าว บ้างประปราย

สำหรับคนที่ชอบแบบ ให้มันดูเก่าตามธรรมชาติก็อาจเลือกที่จะไม่ทำอะไร แต่สำหรับผู้ที่ชอบให้มันดูเหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ ก็ต้องมีการดูแลรักษากันหน่อย โดยเราจะมาแนะนำการทำสีสำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายนอกกัน โดยเริ่มต้นจากการเลือกประเภทสีที่จะใช้ก่อน (สำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายนอก) สีที่หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ที่สามารถใช้กับงานภายนอกมีดังนี้

สีสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ภายนอก

1. สีย้อมไม้ - สูตรน้ำมัน (Woodstain)

2. สีย้อมไม้ - สูตรน้ำ (Waterstain)

3. น้ำยารักษาเนื้อไม้ (Teak Oil)

4. โพลียูรีเทน ประเภทสำหรับงานภายนอก (Polyurethane for Exterior)


ม้านั่งที่ผ่านการทำสีครึ่งตัว เมื่อใช้ไปนานๆเป็นแบบนี้


ประเภทของสีย้อมไม้


โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งประเภทของสีย้อมไม้ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ สีย้อมไม้สูตรน้ำ และสีย้อมไม้สูตรน้ำมัน

1. สีย้อมไม้สูตรน้ำ

สีย้อมไม้สูตรน้ำนี้สามารถนำไปทาบนชิ้นงานได้เลย โดยก่อนทาควรจะขัดชิ้นงานให้เรียบร้อย และใช้แปรงปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิว/ร่องเสี้ยน ของชิ้นงานออกให้เรียบร้อย เพื่อให้สีที่ทาลงไปสามารถซึมเข้าสู่เนื้อไม้ได้ดี บางยี่ห้ออาจจะให้ผสมน้ำเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย เพื่อไม่ให้สีมันข้นเกินไป เพราะถ้าสีข้นเกินไปก็จะทาค่อนข้างยากและเห็นรอยแปรงได้ง่าย

สีย้อมไม้สูตรน้ำนี้เมื่อทาลงไปบนงานไม้แล้วเนื้อฟิล์มจะมีความคงทนยึดเกาะกับไม้ได้ดีกว่าสูตรน้ำมัน แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นฉุน

นอกจากนี้จุดเด่นของสีจำพวกสูตรน้ำ คือมันเป็นสีที่มีความปลอดภัยสูง จึงนิยมนำไปใช้กับงานของใช้หรือของเล่นเด็ก ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ไม่มีสารตะกั่ว ปรอท หรือโลหะหนักเจอปน ซึ่งอาจมีอันตรายต่อสุขภาพของเด็กๆ โดยเวลาทาอาจต้องทาทับประมาณ 3-4 รอบถึงจะเห็นสีหรือได้สีตามที่ต้องการ

2. สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน

สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน สามารถที่จะนำไปทาบนชิ้นงานได้เลย และเตรียมชิ้นงานวิธีเดียวกันสีย้อมไม้สูตรน้ำ แต่หากต้องการผสมเพื่อให้สีไม่ข้นเกินไป ให้ใช้ทินเนอร์ที่ใช้สำหรับผสมสีย้อมไม้สูตรน้ำ(ดูเบอร์ให้ถูกต้องด้วย) มาผสมก่อนใช้งาน โดยอัตราการผสมจะอยู่ที่ไม่เกิน 10% ต่อปริมาณสีที่ใช้

ตัวสีจะมีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่เมื่อทาสีลงบนงานไม้แล้วจะซึมลึกได้ดีกว่าสูตรน้ำ ดังนั้นสีย้อมไม้สูตรน้ำมันจึงเหมาะกับงานทั้งภายในและภายนอก ฟิล์มที่อยู่บนผิวไม้จะแข็ง และทนทานต่อแสงแดด และฝนได้ดีกว่า เวลาทาสีก็จะไม่ค่อยเพี้ยนไปจากต้นแบบ ทาทับเพียง 2 ครั้งก็จะได้สีไม้สวยๆตามที่ต้องการ แต่ข้อเสียของสีย้อมไม้สูตรน้ำมันคือ มันแห้งช้ากว่าแบบน้ำ อย่างน้อย 8 ชม. จะแห้งผิวหน้าพอจะสัมผัสได้ และ อย่างน้อย 24-48 ชม. เพื่อให้เนื้อสีซึมลึกลงสู่เนื้อไม้และแห้งสนิท นอกจากนี้ส่วนใหญ่จะต้องผสมทินเนอร์ของสียี่ห้อนั้นๆเท่านั้นเพื่อเจือจางสีก่อนจึงจะสามารถเอาสีมาทาได้

    อย่างไรก็ตามสีย้อมไม้ทั้ง 2 แบบมีระยะเวลาในการปกป้องต่อแสงแดด และฝน ตั้งแต่ 6 - 36 เดือน ขึ้นกับสภาพอากาศเลวร้ายแค่ไหน โดยเฉพาะเมืองไทยที่แดดแรงสุดๆและฝนก็ตกบ่อยมาก แต่เมื่อเห็นสีตัวเฟอร์นิเจอร์มันซีดจาง แล้วเราก็สามารถเตรียมผิวชิ้นงานด้วยวิธีเดิม อาจจะอุดร่องไม้ที่มีขนาดใหญ่ด้วยพวก วู๊ดฟิลเลอร์ ขัดพื้นผิวให้เรียบ ปัดฝุ่นออก แล้วก็ทาทับแบบเดิมได้


นอกจากการเลือก ประเภทสีย้อมไม้ระหว่างสูตรน้ำกับสูตรน้ำมันแล้ว เราจะต้องเลือกความเงา-ด้านของสีย้อมไม้ที่เราจะใช้ด้วย เพื่อเวลาทาจะได้เห็นลายไม้สวยๆอย่างที่ต้องการ โดยสีย้อมไม้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้

1. สีย้อมไม้แบบใส


เป็นสีย้อมไม้แบบโปร่งแสง นิยมใช้ในงานไม้ที่ต้องการโชว์ความสวยงามหรือความคลาสสิคของไม้ดั้งเดิม ผลิตจากผงสีและเรซิ่น จึงเหมาะกับการใช้ทางานไม้ที่อยู่กลางแจ้งได้ดี

2. สีย้อมไม้แบบเงา


เป็นสีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งแสง คือทาลงไปแล้วก็จะมีสีอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถโชว์ความสวยงามตามธรรมชาติของลายไม้ได้อยู่ นิยมใช้ทาทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะการทาเฟอร์นิเจอไม้จะนิยมใช้สีย้อมไม้แบบเงานี้มาก ป้องกันการซีดจาง กันน้ำ กันแดด กันความชื้นได้ดี

3. สีย้อมไม้แบบกึ่งเงา


สีย้อมไม้แบบนี้ เป็นแบบกึ่งเงากึ่งด้าน โดยนิยมใช้ทาพวกวงกบ ผนัง ประตู หน้าต่าง สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ป้องกันแสงแดดได้ดี และมีส่วนผสมของสารกันเชื้อราผสมเข้าไปด้วย

ทีคออยล์ - น้ำมันรักษาเนื้อไม้

สำหรับผู้ที่ต้องการให้ไม้มี ลักษณะใกล้เคียงกับไม้ในธรรมชาติที่สุด อาจจะเลือกใช้น้ำมันรักษาเนื้อไม้ที่เรียกว่า ทีคออลย์ โดยวิธีใช้จะคล้ายกันกับสีย้อมไม้ คือไม่ต้องผสมอะไร ทาได้เลย โดยสามารถใช้ผ้าชุบทีคออลย์เช็ดให้ทั่วเฟอร์นิเจอร์ และต้องใช้เวลารอให้แห้ง (ราวๆ 24-48 ชม.) ไม้จะดูดซึมน้ำมันเหล่านี้ เข้าไปในเนื้อไม้เอง โดยหลักการทำงานของมันคือ ไม้มีน้ำมันอยู่ในตัวเนื้อไม้ แต่เมื่อมันโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานานๆ น้ำมันที่มีในเนื้อไม้มันระเหยออกไปจนหมดและทำให้ไม้นั้นผุพังเร็ว น้ำมันรักษาเนื้อไม้ ก็เหมือนน้ำมันของเนื้อไม้ที่จะดูดซึมเข้าไปในเนื้อไม้และทำให้ไม้ชุ่มชื้น ไม่ผุกร่อนง่าย (เหมือนที่เราใช้น้ำของฮาดะลาโบ ที่คุณเอาไปตบๆบนผิวหน้า เพื่อให้ผิวเราดูดซึมความชุ่มชื้นทำนองนั้นหละ)

แต่ระยะเวลาความคงทนของน้ำมันจะอยู่ประมาณ 6 เดือน ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเราอาจจะต้องนำเอาน้ำมันตัวนี้มาเช็ด ตัวเฟอร์นิเจอร์ของเราอีกครั้ง (หรือจะ 1 ปี ค่อยทำทีก็ได้ไม่เป็นไร) 

จุดเด่นคือ มันใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด (ไม่ได้บอกว่าสวยสุดนะ สวยไม่สวยแล้วแต่คนมองครับ) และไม่ต้องใช้แปรงเอาเศษผ้าชุบแล้วเช็ดได้เลยครับ

 


แบบโพลียูรีเทนสำหรับงานภายนอก

แบบนี้ค่อนข้างแพง และช่างที่ใช้ต้องมีเทคนิคด้วย เพราะต้องผสมทินเนอร์ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง ซึ่งเอาไว้จะเอาข้อมูลมาลงในองค์ความรู้ถัดๆไปครับ

     นี่ก็เป็นประเภทและการเลือกใช้สีสำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายนอก ซึ่งก็แล้วแต่เจ้าของเฟอร์นิเจอร์ว่า ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น เลือกให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ ส่วนจะเป็นยี่ห้อไหนก็ต้องลองเปรียบเทียบสีสัน คุณสมบัติ และราคากันเอาเอง ราคาไม่แตกต่างกันมาก ขอแค่เลือกให้ถูกใจเจ้าของบ้านก็พอแล้ว



 
© 2000-2008 CopyRight by Tang Yong Hua Heng, Ltd., Part
Tel. 029126414  Fax. 025877727  Website. www.tangyongfurniture.com
disclaimer | privacy | contact us 

  Sale Login Warehouse Login Driver Login